httpsdog-breeds.info
โกลเด้นรีทริฟเวอร์ (Golden Rrtrlever)

โกลเด้น รีทริฟเวอร์ เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับโกลเด้น รีทริฟเวอร์

โกลเด้นรีทริฟเวอร์ (Golden Rrtrlever) เป็นสุนัขที่มีสายพันธุ์ขนาดใหญ่ โดยมีต้นกำเนิดมาจากสุนัขล่าเหยื่อ ด้วยความที่เป็นสุนัขที่ฉลาด เรียนรู้ได้เร็วและเก่งในหลากหลายด้าน จึงเป็นที่นิยมนำมาฝึกเพื่อใช้ในการนำทาง การตรวจค้นสิ่งของต้องห้าม ใช้ในการช่วยเหลือคนพิการ รวมไปถึงใช้ในการช่วยดับเพลิงกู้ภัยต่าง ๆ ทั้งยังมีนิสัยที่เข้ากับคนได้ง่าย ดูร่าเริง ขนที่สะอาดตา ซึ่งสีของสุนัขสายพันธุ์นี้ยังขึ้นอยู่กับพันธุ์กรรมอีกด้วยมีทั้งสีทองอ่อน สีทองเข้ม และสีน้ำตาล เหตุนี้จึงทำให้เป็นที่นิยมเลี้ยงภายในบ้านกันอย่างแพร่หลายทั่วโลกนั้นเอง

ต้นกำเนิดของโกลเด้น รีทริฟเวอร์

สำหรับสุนัขสายพันธุ์โกลเด้น รีทริฟเวอร์ ดั้งเดิมมีถิ่นกำเนิดมาจากสกอตแลนด์ ซึ่งในเวลาต่อถูกดัดแปลงพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับเป็นสัตว์นักล่า และในช่วงของกีฬายิงปืนล่านกรุ่งเรืองในศตวรรษที่ 18 ส่งผลให้การไล่ตามเก็บซากนกที่ถูกยิงตกลงไปในป่าเต็มไปด้วยความยากลำบาก จึงมีความจำเป็นต้องใช้สุนัขที่มีความถนัดเฉพาะตัวช่วยในการค้นหา จนกลายเป็นที่รู้จักกันทั่วโลกซึ่งสายพันธุ์แรกถูกบันทึกไว้และถูกปรับเปลี่ยนจนได้เป็นชื่อ Gloden Retriever ในปี ค.ศ 1920 ต่อมาในปี ค.ศ 1925 ประเทศสหรัสอเมริกาได้บันทึกสายพันธุ์โดยองค์กร American Kennel Club (AKC) จนกลายมาเป็นที่นิยมด้วยการจัดอันดับเป็นที่ 2 ของสุนัขยอดฮิตในสหรัฐอเมริกา

โกลเด้นรีทริฟเวอร์ (Golden Rrtrlever)

ลักษณะทางกายภาพสุนัขสายพันธุ์โกลเด้น รีทริฟเวอร์

โดยทั่วไปแล้วสุนัขสายพันธุ์โกลเด้น รีทริฟเวอร์ มีเพียงสายพันธุ์เดียว แต่มีเพียงสีขนที่มีความแตกต่างกัน ได้แก่ สีทองอ่อน (Golden) สีทองเข้ม (Dark Golden) และสีน้ำตาล (Chestnut) โดยมีรูปร่างที่สมส่วนแข็งแรง มีลำตัวที่ยาวกว่าขา หัวโต ดวงตาสีน้ำตาล มีจมูกสีดำ ปากกว้าง หูยาว และมีขนยาวนุ่มเรียบ ซึ่งตัวผู้จะมีน้ำหนักประมาณ 25-32 กิโลกรัม ส่วนตัวเมียจะมีน้ำหนักประมาณ 22-27 กิโลกรัม มีอายุเฉลี่ยประมาณ 10-12 ปี

การสืบพันธุ์และวงจรชีวิตของโกลเด้น รีทริฟเวอร์

สุนัขสายพันธุ์โกลเด้น รีทริฟเวอร์ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เมื่อโตเต็มที่เข้าสู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุประมาณ 6 เดือน หลังจากที่เข้าสู่ช่วงนี้แล้วสามารถผสมพันธุ์ได้ตลอดช่วงอายุ ซึ่งในช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือช่วงฤดูร้อนและช่วงใบไม้พลิ เมื่อมีการผสมพันธุ์แล้วหลังจากที่ปฏิสนธิสมบูรณ์ การตั้งท้องของโกลเด้น รีทริฟเวอร์ นานประมาณ 63 วัน และจะกำเนิดลูกครั้งละประมาณ 6-8 ตัว เมื่อคลอดได้ครบประมาณ 10 วัน จะสามารถลืมตาได้ พร้อมกับเริ่มเดินได้ในช่วงสัปดาห์ที่สอง ถึงจะเริ่มอย่างนมในช่วงสัปดาห์ที่ 8 และเริ่มกินอาหารครั้งแรกในช่วงประมาณสัปดาห์ที่ 3 โกลเด้น รีทริฟเวอร์ จะเข้าสู่ช่วงโตที่เมื่ออายุประมาณ 2 ปี โดยมีน้ำหนักประมาณ 25-32 กิโลกรัมสำหรับเพศผู้ ส่วนเพศเมียจะมีน้ำหนักประมาณ 22-27 ปี

ลักษณะนิสัยสุนัขสายพันธุ์โกลเด้น รีทริฟเวอร์

จุดเด่นสำหรับลักษณะนิสัยของสุนัขสายพันธุ์โกลเด้น รีทริฟเวอร์ ที่มีความฉลาด ร่าเริง เชื่อฟังคำสั่ง มักจะเป็นมิตรกับคนแปลกหน้าและคนที่คุ้นเคย สามารถเข้ากันได้ง่ายกับเด็กรวมไปถึงสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ และรักในการวิ่งออกกำลังกาย โดยเฉพาะการว่ายน้ำ โดยคนส่วนใหญ่เมื่อพบเห็นจะรู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนและความอารมณ์ดี ด้วยเอกลักษณ์ที่มีความฉลาดเป็นพิเศษ เรียนรู้ได้เร็ว เชื่อฟังคำสั่ง โกลเด้น รีทริฟเวอร์ จึงถูกมักใช้เป็นสุนัขบำบัด สุนัขนำทาง สุนัขตำรวจ และสุนัขใช้สำหรับกู้ภัยนั้นเอง

อาหารที่เหมาะสมสำหรับโกลเด้น รีทริฟเวอร์

สุนัขสายพันธุ์โกลเด้น รีทริฟเวอร์ เนื่องจากเป็นสุนัขที่มีขนาดใหญ่แข็งแรง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องได้รับสารอาหารที่ให้พลังงานสูง คุณค่าทางโภชนาการก็ต้องสูง ดังนั้นอาหารที่เหมาะสมจึงจำเป็นต้องมีโปรตีนได้ได้จากสัตว์ ไขมันต่ำ ที่ได้จากพืช ไฟเบอร์สูง ที่ได้จากผัก และแร่ธาตุที่จำเป็น ในปริมาณที่ร่างกายต้องการต่อวัน ทั้งนี้ควรคำนึงถึงอายุ น้ำหนัก การเล่นกิจกรรมในแต่ละวันอีกด้วย หากให้ในปริมาณที่เยอะเกินไป อาจทำให้สุนัขเป็นโรคอ้วนได้ ในขณะเดียวกันหากให้อาหารในปริมาณที่ไม่เพียงพอ ก็อาจจะทำให้ขาดสารอาหารและอ่อนแอได้ ซึ่งควรจะได้รับอาหารปริมาณ 1-2 ถ้วยต่อวัน และแบ่งเป็น 2-3 มื้อนั้นเอง

เจ้าของที่เหมาะสมควรดูแลเอาใจใส่ด้านใดบ้าง

เนื่องจากเป็นสุนัขสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ และเป็นสัตว์นักล่า หากเจ้าของไม่ใส่ใจและไม่เข้าใจก็อาจจะมีปัญหาในภายหลังตามมา ดังนั้นการดูแลเอาใจใส่ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก ควรมีเวลาพาสุนัขออกไปวิ่งเล่น ทำกิจกรรมตามสถานที่ที่เหมาะสม การพาไปว่ายน้ำ รวมถึงการใส่ใจในเรื่องของสารอาหารในแต่ละวัน ในปริมาณที่เหมาะสม และโรคที่จะตามมาอาทิเช่น โรคผิวหนัง โรคไหลเวียนโลหิต โรคที่เกี่ยวกับโครงกระดูก โรคภูมิคุ้มกัน และโรคเกี่ยวกับดวงตา ดังนั้นจึงควรได้รับการตรวจสุขภาพเป็นประจำจากสัตวแพทย์

สุนัข ความรู้เกี่ยวกับสุนัข : dog-breeds.info

ความรู้เกี่ยวกับสุนัขเพิ่มเติม : ชิวาวา เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับชิวาวา