สุนัขพุดเดิ้ล

พุดเดิ้ล หรือสุนัขพุดเดิ้ล (poodle) เป็นสุนัขสายพันธุ์เดียวที่มีรูปร่างแตกต่างกันถึง 3 ขนาด ทั้งเล็ก กลาง และใหญ่ แต่มีลักษณะนิสัยที่เหมือนกัน ชอบเล่น ร่าเริ่ง ชอบการเรียนรู้ มีความกระตือรือร้น ทั้งยังชื่นชอบเกี่ยวกันการออกกำลังกาย วิ่งเล่นไปมา สามารถเข้าได้กับทุกคน และเป็นสุนัขแข็งแรง ดังนั้นการดูแลใส่ใจจากเจ้าของควรดูแลให้ครบรอบด้าน ทั้งด้านอาหารการกินที่ครบถ้วย การดูแลด้านความสะอาด การฉีดวัคซีนอยู่เป็นประจำทุกปี พุดเดิ้ลเป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศเยอรมัน และเป็นสุนัขของคนชั้นสูงอีกด้วยจนในเวลาต่อมาสุนัขสายพันธุ์นี้ก็ได้ขยายออกเป็นวงกว้างไปทั่วโลก จนถึงปัจจุบัน

ประวัติของสุนัขพุดเดิ้ล

สำหรับสุนัขสายพันธุ์พุดเดิ้ลนั้นถูกค้นพบว่ามีถิ่นกำเนิดมาจากแถบประเทศเยอรมัน โดยมีการอ้างอิงถึงคำศัพท์ที่มีคำว่า พูดเดิ้ล ซึ่งเป็นคำมาจาก Pudel เมื่อค้นพบและแปลภาษาออกมาแล้วหมายถึงคำว่า จอมลุยน้ำ นั้นเอง ซึ่งต่อมาภายหลังก็ได้ถูกฝึกพัฒนาดัดแปลงเพื่อใช้งานในการล่าสัตว์น้ำ อย่างเช่น ล่าเป็ดน้ำ เหตุเพราะว่าพุดเดิ้ลมีขนที่หนาและหยิกด้วยในเวลาเดียวกันจึงช่วยป้องกันไม่ให้ขนพันกันและลอยได้นานเมื่อสัมผัสกับน้ำ หลังจากนึกในศตวรรษที่ 18 พุดเดิ้ลก็ได้เริ่มเข้าสู่วังและเป็นที่รู้จักของคนชั้นสูง และได้รับการฝึกฝนแสดงออกถึงท่าทางต่าง ๆ และถูกนำมาใช้เป็นสุนัขโชว์ในโรงละครและอื่น ๆ มากมายจนได้รับความนิยมสืบต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันทั่วโลก

ลักษณะของสุนัขพุดเดิ้ล

ขนาด : สุนัขพุดเดิ้ล เป็นสุนัขขนาดกลาง หรือสมส่วน

น้ำหนัก : ทอย ไม่เกิน 4.5 กิโลกรัม / มินิเจอร์ ประมาณ 6-8 กิโลกรัม / สแตนดาร์ด 20-30 กิโลกรัม

รูปร่าง : สมส่วน หัวกลม แก้มแบน จมูกยาวเรียว ใบหูกว้างตกลงล่าง คอยาว ขายาว หางยาวตั้งตรง ขนหยิก

สีสันและลวดลาย : สุนัขพุดเดิ้ลมีสีสันที่หลากหลาย ดังนี้

สีขน : สีดำ / สีขาว / สีน้ำตาล / สีน้ำตาลอ่อน และสีครีม

ดวงตา : สีดำ กลมโต

อายุ : เฉลี่ยโดยประมาณ 12 – 15 ปี หรือมากกว่านั้น

การสืบพันธุ์และวงจรชีวิตของสุนัขพุดเดิ้ล

สุนัขพุดเดิ้ลเพศผู้

เริ่มโตเต็มที่และเข้าสู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์เมื่อมีอายุครบประมาณ 6-8 เดือน สามารถผสมพันธุ์ได้ตลอดทั้งปี และมักจะแสดงอาการดมไปมาทั้งตัวเพศเมียก่อนเกิดการผสมพันธุ์

สุนัขพุดเดิ้ลเพศเมีย

เริ่มโตเต็มที่และเข้าสู่ช่วงวัยเจริญพันธุ์เมื่อมีอายุครบประมาณ 6-8 เดือนเช่นเดียวกับเพศผู้ แต่ตัวเมียจะเป็นสัตทุก ๆ 6 เดือน เป็นสัต 1 ครั้ง ยาวนานกว่า 21 วัน พร้อมทั้งมักแสดงอาการผิดปกติ เช่น ช่องคลอดบวม น้ำมูกไหล และมีอาการอ่อนเพลียนอนหลับเยอะ

วงจรชีวิตของสุนัขพุดเดิ้ล

เมื่อเกิดการผสมพันธุ์กันอย่างสมบูรณ์แบบเพสเมีย หรือตัวเมีย จะตั้งท้องเป็นเวลาประมาณ 63 วัน สามารถตั้งทั้งได้ครอกละ 3-6 ตัวต่อครั้ง หลังจากคลอดตัวลูกจะเริ่มเดินและลืมตาได้เมื่ออายุครบประมาณ 2 สัปดาห์ เริ่มทานอาหารชนิดอ่อนได้เมื่อช่วงอายุประมาณ 4 สัปดาห์ และเริ่มหย่านมออกห่างแม่เมื่อมีอายุครบประมาณ 6-8 สัปดาห์

การแยกกลุ่มของสุนัขพุดเดิ้ล

จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ๆ สามารถแยกได้ง่ายชัดเจนเห็นได้ชัด อย่างเช่น

ทอยพุดเดิ้ล (Toy Poodle) เป็นสุนัขที่มีขนาดเล็ก น้ำหนักไม่เกิน 4.5 กิโลกรัม
มินิเจอร์พุดเดิ้ล (Miniature Poodle) เป็นสุนัขที่มีขนาดกลาง น้ำหนักประมาณ 6-8 กิโลกรัม
สแตนดาร์ดพุดเดิ้ล (Standard Poodle) เป็นสุนัขที่มีขนาดใหญ่ น้ำหนังประมาณ 20-30 กิโลกรัม

ลักษณะนิสัยของสุนัขพุดเดิ้ล

สุนัขพุดเดิ้ลเป็นสุนัขที่ดูภายนอกชวนเล่น มีเอกลักษณ์ช่วงขายาว ตัวยาว ขนฟู แต่เมื่อมองลึก ๆ แล้วพุดเดิ้ลยังมีนิสัยที่ขึ้เล่น ฉลาด ช่างเรียนรู้ สนใจสิ่งรอบข้างตลอดเวลา ฝึกง่าย ร่าเริง สามารถปรับตัวเข้าได้กับทุกคน รักและหวงเจ้าของเป็นพิเศษ เนื่องจากมีนิสัยยที่อ่อนโยนจะเหมาะกับการเลี้ยงคู่กับเด็กเล็ก หรือเลี้ยงเพื่อเป็นเพื่อนกับคนสูงวัย โดยปกติแล้วพุดเดิ้ลเป็นสุนัขที่อยู่ง่ายไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่ขนาดใหญ่เลี้ยงได้ทั้งบ้าน อพาร์ทเมนต์ และคอนโดยได้เช่นกัน

คำแนะนำในการดูแลสุนัขพุดเดิ้ล

พื้นที่ที่เหมาะสำหรับเลี้ยงสุนัขพุดเดิ้ล

สำหรับสุนัขสายพันธุ์พัดเดิ้ลนั้นเป็นสายพันธุ์ที่พอเหมาะกำลังดีมีลักษณะนิสัยที่ร่าเริง และปรับตัวเข้าได้กับทุกพื้นที่ ดังนั้นสถานที่ที่เหมาะสมไม่จำเป็นที่จะต้องมีพื้นที่ขนาดใหญ่ แต่นขณะเดียวกันก็ต้องจัดสถานที่ไว้ให้วิ่งเล่นไปมาด้วย เนื่องจากเป็นสุนัขที่ชื่นชอบในการออกกำลังกาย เพื่อให้กล้ามเนื้อได้ยืดหยุนบ้างหากไม่มีสถานที่ก็อาจจะพาไปวิ่งเล่นสวนสาธารณะก็ได้เช่นกัน พื้นที่ที่สามารถเลี้ยงได้ เช่น คอนโด อพาร์ทเมนต์ หรือบ้านเป็นต้น

อาหารที่เหมาะสำหรับสุนัขพุดเดิ้ล

เนื่องจากสุนัขสายพันธุ์นี้มีความกระตือรือร้น ชอบวิ่งไปมา ชอบออกกำลังกาย ซึ่งในแต่ละวันค่อนข้างที่จะใช้พลังงานเยอะเป็นพิเศษ เมื่อใช้พลังงานเยอะแล้วก็มีความต้องการพลังงานด้านสารอาหารที่ครบถ้วนเช่นกัน ซึ่งอาหารที่ดีมีประโยชน์ที่ต้องได้รับแต่ละวันควรอุดมไปด้วย โปรตีนจากเนื้อสัตว์และปลาสูง ไขมันต่ำ คาร์โบไฮเดรต วิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ จะผักหรือผลไม้ นอกจากจะช่วยเสริมสร้างร่างกาย เพิ่มภูมิคุ้มกันที่ดีแล้ว ยังสามารถช่วยบำรุงให้ขนนุ่มสวยงามได้ด้วยเช่นกัน

การดูแลทำความสะอาดสุนัขพุดเดิ้ล

อีกอย่างที่ต้องดูแลใส่ใจควบคู่ไปพร้อมกับคือการดูแลความสะอาดสุนัขที่เรารัก ซึ่งพุดเดิ้ลใช้ชีวิตกิจกรรมในแต่ละวันค่อนข้างหนัก ก็อาจจะทำให้เกิดการสะสมในเรื่องของเหงื่อและทำให้ขนจับต้วเป็นก้อน ดังนั้นจึงควรจะหวีขนอย่างเป็นประจำทุกวัน เพื่อลดการจับก้อน รวมไปถึงการอาบน้ำควรอาบสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง นอกจากนี้ควรดูแลทางด้านของ ใบหู ดวงตา ช่องปาก ฟัน และเล็บด้วย เนื่องจากเป็นจุดสะสมของแบคทีเรีย อาจก่อให้เกิดการติดเชื้อโรคต่าง ๆ ได้ง่ายด้วย

การดูแลด้านสุขภาพของสุนัขพุดเดิ้ล

สุขภาพสัตว์เลี้ยงที่เรารักก็เป็นเรื่องสำคัญ การดูแลอย่างใกล้ชิดมั่นคอยสังเกตพฤติกรรม เพราะน้องสุนัขไม่สามารถพูดออกมาได้ แต่จะเป็นการแสดงอาการออกมาเอง ดังนั้นควรพาไปออกกำลังกายอย่างเป็นประจำทุกวัน การรับประทานอาหารอย่างเหมาะสม การดูแลใสใจเรื่องความสะอาด และโรคที่มักพบในสุนัขสายพันธุ์นี้คือ โรคข้อสะโพก ต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม โรคผิวหนังอักเสบ โรคหิด ภูมิแพ้ รวมไปถึงอาจพบเกี่ยวกับพยาธิในลำไส้อีกด้วย เช่นนี้แล้วควรพาสุนัขไปพบแพทย์ตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีนอย่างเป็นประจำเพื่อป้องกันโรคต่าง ๆ ที่จะตามมา

สุนัข ความรู้เกี่ยวกับสุนัข : dog-breeds.info